น้ำผลไม้คั้นสดมีธาตุที่เป็นประโยชน์ในปริมาณเท่ากันกับผักและผลไม้ แต่น้ำผักบางชนิดควรเตรียมและดื่มอย่างเหมาะสม เพื่อไม่ให้เปลี่ยนจากเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างปัญหาให้กับร่างกาย
มันจำเป็น
หัวบีทสด แครอทสด น้ำเปล่า น้ำแร่ น้ำซุปโรสฮิป น้ำแตงกวา คั้นน้ำผลไม้
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
ก่อนคั้นน้ำบีทรูทและแครอท ล้างผักให้สะอาดในน้ำอุ่นด้วยแปรง ปอกเปลือกหั่นเป็นแท่งแล้วบีบน้ำออกจากเครื่องคั้นน้ำผลไม้
ขั้นตอนที่ 2
ปล่อยให้น้ำผลไม้ที่เตรียมไว้วางบนโต๊ะหรือในตู้เย็นเป็นเวลาหนึ่งหรือสองชั่วโมงเพื่อให้เศษส่วนที่ระเหยที่เป็นอันตรายระเหยออกไป ซึ่งเมื่อกลืนเข้าไปจะทำให้หลอดเลือดกระตุก ปวดศีรษะ และคลื่นไส้
ขั้นตอนที่ 3
หากคุณไม่สามารถเติมน้ำหรือน้ำผลไม้อื่น ๆ ลงในน้ำแครอทเข้มข้นก็ไม่ควรดื่มน้ำบีทรูทบริสุทธิ์โดยเฉพาะในครั้งแรก เริ่มดื่มน้ำบีทรูทด้วย 1-2 ช้อนโต๊ะเจือจางด้วยน้ำแครอท 70-100 มล. ทุกวันปริมาณน้ำบีทรูทในเครื่องดื่มสามารถเพิ่มขึ้นได้ ค่อยๆ นำไปเป็นอัตราส่วน 50:50 กับน้ำแครอท
ขั้นตอนที่ 4
อย่ากินน้ำบีทรูทมากกว่า 100 มล. ต่อวัน คุณสามารถเจือจางน้ำบีทรูทไม่เพียง แต่กับแครอท แต่ยังรวมถึงแอปเปิ้ล, ฟักทอง, กะหล่ำปลีหรือน้ำเปล่า, น้ำแร่ที่ไม่มีแก๊ส, ยาต้มโรสฮิป
ขั้นตอนที่ 5
ดื่มน้ำบีทรูทและแครอท 50 มล. วันละ 1-3 ครั้ง ก่อนรับประทานอาหาร 20 นาที น้ำผลไม้นี้มีคุณสมบัติเป็นยา มันต้านทานโรคโลหิตจาง เพิ่มฮีโมโกลบินในเลือด วัณโรค นอนไม่หลับ กลาก โรคไทรอยด์ ละลายแคลเซียมส่วนเกินในหลอดเลือด ลดความดันโลหิตในความดันโลหิตสูง และมีประโยชน์สำหรับการมีประจำเดือนในผู้หญิง
ขั้นตอนที่ 6
น้ำแครอทบีทรูทเป็นน้ำยาทำความสะอาดสำหรับไต ตับ ถุงน้ำดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเติมน้ำแตงกวาสดลงไป ผู้ป่วยโรคมะเร็งควรดื่มน้ำจากแครอทและหัวบีทตลอดเวลา