กล้วยมีปริมาณวิตามิน B6 สูงเมื่อเทียบกับผลไม้อื่นๆ วิตามินชนิดนี้มีหน้าที่ทำให้อารมณ์ดีโดยเฉพาะในผู้หญิงและยังมีประโยชน์ต่อระบบประสาทอีกด้วย
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
กล้วยเป็นผลไม้เมืองร้อนที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากที่สุดชนิดหนึ่ง เนื่องจากมีวิตามินและแร่ธาตุสูง กล้วยจึงฟื้นฟูพลังงานที่ใช้ไปกับกิจกรรมทางจิตใจและร่างกายได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว นอกจากนี้ ผลไม้ชนิดนี้ยังมีน้ำตาลธรรมชาติ เช่น ซูโครส กลูโคส ฟรุกโตส
ขั้นตอนที่ 2
วิตามิน B6 หรือ pyridoxine - วิตามินที่สำคัญที่สุดของ B-complex มีอยู่ในกล้วยในปริมาณ 0.4 มก. ต่อ 100 กรัมของผลไม้ กล้วยห้าลูกต่อวันจะให้วิตามินที่จำเป็นต่อวันเท่ากับ 2-3 มก.
ขั้นตอนที่ 3
วิตามินซีเป็นที่รู้จักในฐานะสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพซึ่งช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและช่วยให้ร่างกายสามารถรับมือกับโรคติดเชื้อได้ วิตามินซี 10 มก. มีอยู่ในกล้วย 100 กรัม ซึ่งคิดเป็น 10% ของปริมาณที่บริโภคต่อวัน
ขั้นตอนที่ 4
แคโรทีน - โปรวิตามินเอที่มีอยู่ในกล้วยในปริมาณ 20 ไมโครกรัม โดยบริโภควันละ 800 ไมโครกรัม วิตามินเอช่วยปกป้องร่างกายจากโรคมะเร็งและโรคหลอดเลือดหัวใจ
ขั้นตอนที่ 5
วิตามินอีหรือที่เรียกว่าวิตามินของวัยเยาว์ยังพบได้ในเนื้อกล้วย
ขั้นตอนที่ 6
กล้วยอุดมไปด้วยธาตุที่จำเป็นเช่นโพแทสเซียม ปริมาณในกล้วย 100 กรัมประมาณ 350 มก. ซึ่งมากกว่าผลไม้อื่นๆ กล้วยหกลูกต่อวันจะช่วยให้ร่างกายต้องการธาตุนี้ทุกวัน
ขั้นตอนที่ 7
แมกนีเซียมและแคลเซียมเกี่ยวข้องกับการสร้างเนื้อเยื่อกระดูกและกล้ามเนื้อ นอกจากนี้ การมีอยู่ของส่วนประกอบเหล่านี้ช่วยกำจัดการติดนิโคติน ปริมาณแมกนีเซียมต่อกล้วย 100 กรัมคือ 42 มก. โดยรับประทานวันละ 400 มก. ปริมาณแคลเซียมอยู่ที่ประมาณ 8 มก. ต่อผลไม้ 100 กรัม และอัตราการบริโภคธาตุนี้อยู่ที่ประมาณ 1,000 มก. ต่อวัน
ขั้นตอนที่ 8
ธาตุเหล็กเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นซึ่งช่วยเพิ่มองค์ประกอบของเลือดและลดความเสี่ยงของโรคโลหิตจาง ปริมาณธาตุเหล็กต่อวันคือ 10-15 มก. ในกล้วยมีเนื้อหาประมาณ 0.6 มก.