แยมราสเบอร์รี่ - ของหวานหอมกรุ่น - เป็นส่วนเสริมที่ยอดเยี่ยมสำหรับแพนเค้กและชีสเค้ก นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์นี้ยังเป็นยารักษาหวัดที่ดีเยี่ยมอีกด้วย การทำแยมแสนอร่อยไม่ใช่เรื่องยากสิ่งสำคัญคืออย่าหักโหมกับปริมาณน้ำตาล
ต้องใช้น้ำตาลเท่าไหร่ในการทำแยมราสเบอร์รี่
เป็นที่เชื่อกันว่าในการปรุงแยมราสเบอร์รี่น้ำตาลและผลเบอร์รี่จะต้องใช้ในสัดส่วนที่เท่ากันนั่นคือสำหรับราสเบอร์รี่หนึ่งกิโลกรัม - น้ำตาลหนึ่งกิโลกรัม แยมดังกล่าวถูกเก็บไว้อย่างสมบูรณ์แบบเป็นเวลานาน (มากกว่าหนึ่งปี) แต่มีรสหวานมาก ดังนั้นหากขนมปรุงด้วยความคาดหวังว่าจะได้รับประทานในอีก 6-8 เดือนข้างหน้า ปริมาณน้ำตาลจะลดลงครึ่งหนึ่ง
แยมราสเบอร์รี่โดยไม่ต้องปรุง: สูตรสำหรับฤดูหนาว
ในการทำแยมราสเบอร์รี่ "ดิบ" คุณต้องมีน้ำตาลมากกว่าที่อธิบายไว้ข้างต้นเล็กน้อย เพราะถ้าคุณใส่ส่วนผสมนี้น้อยลง ของหวานจะเสื่อมสภาพอย่างรวดเร็ว คุณจะต้องการ:
- ราสเบอร์รี่หนึ่งกิโลกรัม
- น้ำตาล 1.5 กิโลกรัม
- โถแก้วปริมาตร
- ครกหรือบดมันฝรั่งบด
- กระป๋องและฝาปิด
แยกผลเบอร์รี่บดด้วยน้ำตาลทรายแล้วทิ้งไว้สามชั่วโมงที่อุณหภูมิห้อง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าน้ำตาลละลายหมดแล้ว ฆ่าเชื้อขวดและฝาปิด โอนขนมไปยังภาชนะที่เตรียมไว้ โรยผลเบอร์รี่ด้วยน้ำตาลทรายด้านบนเพื่อให้ปิดแยมได้สนิทแล้วปิดฝา เนื่องจากมีน้ำตาลทรายจำนวนมาก ของหวานดังกล่าวจึงถูกเก็บไว้อย่างดีตลอดฤดูหนาว แม้ว่าควรเก็บไว้บนระเบียงหรือในตู้เย็น/ช่องแช่แข็งก็ตาม ควรสังเกตว่ากระดาษติดไม่หยุดที่อุณหภูมิต่ำกว่าศูนย์
แยมราสเบอร์รี่ปราศจากน้ำตาลสำหรับฤดูหนาว
ตามชื่อหมายถึงน้ำตาลไม่จำเป็นในสูตรนี้ ถ้าคุณไม่ชอบแยมที่มีรสหวาน ให้ลองทำของหวานสำหรับฤดูหนาวโดยใช้ราสเบอร์รี่เท่านั้นโดยไม่ต้องเติมสารให้ความหวาน เทคโนโลยีการทำอาหาร:
- คัดราสเบอร์รี่ล้างและทิ้งในกระชอนปล่อยให้น้ำไหลออก
- วางราสเบอร์รี่ในขวดขนาดเล็ก (0.5-0.7 มล.);
- วางผ้าเช็ดตัวไว้ที่ด้านล่างของกระทะลึกกว้างแล้วใส่ผลเบอร์รี่ในไห
- เทน้ำลงในกระทะจนถึงคอกระป๋อง
- ใส่กระทะบนกองไฟรอให้น้ำเดือดจากนั้นลดความร้อนลงเหลือน้อยที่สุด
- ในระหว่างการปรุงอาหารผลเบอร์รี่จะลดลงในปริมาณดังนั้นเพิ่มราสเบอร์รี่ลงในขวดอย่างต่อเนื่อง
- หลังจากเติมผลเบอร์รี่ครั้งสุดท้ายให้ต้มช่องว่างเป็นเวลา 15 นาทีจากนั้นนำกระป๋องออกจากน้ำแล้วม้วนขึ้นด้วยฝาฆ่าเชื้อ