ไม่ใช่เพื่ออะไรที่ตามชาวอเมริกาใต้ชาวดัตช์เริ่มปลูกสับปะรดในโรงเรือน ผลไม้นี้เป็นคลังเก็บสารอาหาร ประกอบด้วยโบรมีเลนซึ่งช่วยในการดูดซึมโปรตีนในเนื้อสัตว์และปลา น้ำสับปะรดช่วยเรื่องอาหารไม่ย่อย โรคหัวใจ ไต และหลอดเลือด เนื่องจากมีวิตามินซีสูง จึงมีประโยชน์ในการรับประทานเพื่อเพิ่มความจำ
มันจำเป็น
- สับปะรด
- มีด
- ถุงพลาสติก
- กระดาษ
- ตู้เย็นพร้อมช่องแช่ผลไม้
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
หากคุณซื้อสับปะรดแบบไม่สุก ให้เก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องเพื่อให้รสชาติอร่อยและมีกลิ่นหอมมากขึ้น แต่ให้เป็นแบบนี้ไม่เกิน 3 วัน ไม่ควรมีจุดด่างดำ นอกจากนี้ อากาศในครัวไม่ควรมีความชื้นมากเกินไป
ขั้นตอนที่ 2
สับปะรดสุกที่คุณตัดสินใจกินภายในสองสามวันหลังจากซื้อ เก็บไว้ในตู้เย็นในช่องผลไม้ที่อุณหภูมิ 7-8 ° C สูงสุดหนึ่งสัปดาห์ ยิ่งกว่านั้นก่อนอื่นให้ใส่กระดาษหรือถุงที่มีรูแล้วพลิกจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งเป็นระยะ อย่างไรก็ตาม ถ้าอุณหภูมิในตู้เย็นน้อยกว่า 7 ° C สับปะรดก็จะแข็งตัวเร็วและไม่เหมาะกับอาหาร
ขั้นตอนที่ 3
สับปะรดสามารถเก็บไว้ที่บ้านได้นานถึง 3 เดือน แต่ - แล้วแช่แข็งเท่านั้น เมื่อต้องการทำสิ่งนี้ ให้ปอกสับปะรด หั่นเนื้อเป็นชิ้นๆ รวบรวมไว้ในถุงพลาสติก มัดให้แน่น แล้วนำไปแช่ในช่องแช่แข็ง