ซอสช่วยให้อาหารมีรสชาติใหม่และหลากหลายเมนูประจำวัน ยิ่งไปกว่านั้น ไม่จำเป็นต้องเตรียมซอสที่ซับซ้อนด้วยส่วนผสมหลายอย่าง ซอสที่ง่ายที่สุดจะนำบันทึกใหม่มาด้วย ที่ใช้กันมากที่สุดคือมายองเนสและเบชาเมล สำหรับของหวาน ให้ลองซอสวานิลลา
มันจำเป็น
-
- มายองเนส:
- ไข่ - 1 ชิ้น;
- น้ำมะนาว - 1 ช้อนโต๊ะ;
- มัสตาร์ด - 1 ช้อนชา;
- น้ำมันพืช - 1/2 ถ้วย;
- เกลือเพื่อลิ้มรส;
- พริกไทยเพื่อลิ้มรส.
- ซอส Bechamel:
- เนย - 3 ช้อนโต๊ะ;
- แป้ง - 2 ช้อนโต๊ะ;
- นม - 2 แก้ว;
- เกลือเพื่อลิ้มรส;
- พริกไทยเพื่อลิ้มรส.
- ซอสวานิลลา:
- นม 3 ถ้วย;
- ไข่ 4 ชิ้น;
- น้ำตาล - 1 แก้ว;
- แป้ง - 1 ช้อนชา;
- น้ำตาลวานิลลา - 1 ซอง
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
ปล่อยไข่ลงในชามทรงสูง ใส่น้ำมะนาวและมัสตาร์ดเจือจางลงไป (คุณสามารถใช้แบบสำเร็จรูปได้) แล้วตีทุกอย่างให้เข้ากันด้วยเครื่องผสม จากนั้นเติมน้ำมันพืชหนึ่งช้อนชาโดยไม่ต้องหยุดตีส่วนผสมจนกว่าคุณจะใช้ทุกอย่างจนหมด ซอสที่ปรุงเสร็จแล้วมีสีเหลืองเล็กน้อยและมีลักษณะคล้ายครีมเปรี้ยวเข้มข้นแต่เบามาก ในสลัดฤดูหนาวจากผักที่มีเนื้อและปลามักใช้มายองเนสบ่อยกว่าชนิดอื่น
ขั้นตอนที่ 2
ในการทำซอสเบชาเมล ให้อุ่นนม แต่อย่าต้มจนเดือด จากนั้นละลายเนยในกระทะด้วยไฟปานกลางแล้วค่อยๆ ใส่แป้งลงไป คนตลอดเวลา กวนต่อไปอย่างแรงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดก้อน ค่อยๆ เติมนม
ขั้นตอนที่ 3
เมื่อคุณใส่นมทั้งหมดแล้ว ให้นำส่วนผสมไปต้มในขณะที่คนและเคี่ยวสักสองสามนาที จากนั้นปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทยแล้วนำออกจากเตา ซอสเบชาเมลควรข้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดฟิล์มเกาะ ให้ทาเนยเล็กน้อยที่ด้านบน ซอสนี้เหมาะสำหรับอาหารประเภทเนื้อย่างและตับ
ขั้นตอนที่ 4
ในการทำซอสวานิลลาหวาน ให้นำไข่แดงมาบดกับน้ำตาล แล้วใส่แป้งลงไป ค่อยๆเจือจางส่วนผสมด้วยนมต้มร้อนและความร้อนจนข้น แต่อย่าต้ม
ขั้นตอนที่ 5
กรองซอสใส่น้ำตาลวานิลลาและคนให้เข้ากัน ซอสวานิลลาเข้ากันได้ดีกับพุดดิ้ง หม้อตุ๋น และครีม