ว่านหางจระเข้เป็นพืชสมุนไพรที่รู้จักกันดีในชีวิตประจำวันเรียกว่าหางจระเข้ ใช้สำหรับกระบวนการอักเสบ บาดแผล และแผลไหม้ต่างๆ เพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและแม้กระทั่งวัณโรค ในเวลาเดียวกัน สิ่งสำคัญคือต้องรู้ว่าควรบริโภคว่านหางจระเข้ในรูปแบบใดและเตรียมทิงเจอร์บนพื้นฐานของมันเพื่อให้ได้ผลสูงสุด
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
ตัดใบว่านหางจระเข้แล้วพักไว้หนึ่งถึงหนึ่งสัปดาห์ครึ่ง เก็บใบในตู้เย็นห่อด้วยกระดาษสีเข้ม ในทิงเจอร์นี้มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะใช้ใบที่ตัดล่วงหน้าอย่างแม่นยำเพราะในพวกเขาความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพที่จะส่งผลดีต่อร่างกายในเวลาต่อมาเพิ่มขึ้นหลายเท่า สิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะในสภาพที่ไม่เอื้ออำนวยเช่นนี้ พืชจะทุ่มเทกำลังทั้งหมดเพื่อรักษาชีวิตและสิ่งกระตุ้นที่เรียกว่าไบโอเจนิกจะก่อตัวขึ้นในเซลล์
ขั้นตอนที่ 2
ใช้ว่านหางจระเข้ปรุงรสแล้วสับ สามารถทำได้ทั้งด้วยมีดและเครื่องปั่น
ขั้นตอนที่ 3
เทว่านหางจระเข้ที่บดแล้วด้วยสารละลายแอลกอฮอล์ 70% หรือวอดก้าในอัตราส่วน 1 ถึง 5 ยืนยันภาชนะปิดด้วยสารละลายที่เกิดขึ้นในที่เย็นและมืดเป็นเวลาอย่างน้อยสิบวัน
ทิงเจอร์ที่เตรียมตามสูตรนี้สามารถใช้เป็นโลชั่นสำหรับผิวที่มีปัญหาเพื่อปรับปรุงการย่อยอาหารเพิ่มความอยากอาหารกระตุ้นระบบป้องกันของร่างกาย (หนึ่งช้อนชาวันละ 2-3 ครั้งครึ่งชั่วโมงก่อนอาหาร)
ขั้นตอนที่ 4
ใช้ว่านหางจระเข้สำหรับโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังและโรคปอดบวม ใช้ใบว่านหางจระเข้ 5-6 ใบ น้ำผึ้ง 0.5 กก. 2 ช้อนโต๊ะ ล. ล. น้ำมันพืช ต้นเบิร์ช 1 แก้ว และ 3, 5 ช้อนโต๊ะ ล. ล. ดอกลินเดน แช่เย็นใบอย่างน้อย 10 วัน บดพวกเขาขึ้น
ขั้นตอนที่ 5
ละลายน้ำผึ้งแล้วเทว่านหางจระเข้ที่หั่นไว้ลงไป ต้มส่วนผสมในอ่างน้ำประมาณ 15 นาที คนตลอดเวลา เย็นลง
ขั้นตอนที่ 6
ตัดต้นเบิร์ช. เทน้ำเดือดครึ่งลิตรพร้อมกับดอกลินเด็น ปรุงเป็นเวลา 10 นาทีด้วยไฟอ่อน นำออกจากเตาแล้วกรองด้วยผ้าขาวบางแล้วบีบ
ขั้นตอนที่ 7
เทยาต้มของตาลงในน้ำผึ้งเย็นผสมให้เข้ากันเติมน้ำมัน ใช้ส่วนผสมที่ได้ในช้อนโต๊ะวันละสองครั้งก่อนอาหารประมาณ 2 สัปดาห์ เก็บส่วนผสมในตู้เย็น เขย่าขวดก่อนใช้