แน่นอนว่าชีสเค้กฟังดูทันสมัยและสวยงาม แต่โดยพื้นฐานแล้วมันเป็นเพียงเค้กหรือพายไส้ซึ่งประกอบด้วยครีมชีสหรือคอทเทจชีส ชีสเค้กเป็นขนมอเมริกัน แต่ถ้าคุณเจาะลึกลงไป บ้านของบรรพบุรุษของอาหารอันโอชะนี้คือยุโรปตะวันออก ที่ซึ่งเนื่องจากมีชีสกระท่อมมากมาย หม้อปรุงอาหารและชีสเค้กทุกชนิดจึงถูกอบ ดังนั้นชีสเค้กจึงถือได้ว่าเป็นปู่ทวดของชีสเค้ก
มันจำเป็น
- สำหรับเค้ก:
- - คุกกี้ช็อกโกแลตชิปชิ้นเล็กๆ 105 g
- - เนยจืด เนยจืด 25 ก
- - น้ำตาล 1/4 ถ้วย
- สำหรับน้ำเชื่อม:
- - น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ ล.
- - แป้งข้าวโพด 1 ช้อนชา ด้วยสไลเดอร์
- - น้ำเปล่า 1/3 ถ้วย
- - ราสเบอร์รี่ครึ่งถ้วย
- สำหรับการกรอก:
- - ครีมชีส 350 ก
- - น้ำตาลหนึ่งในสามของแก้ว
- - ไข่
- - ไข่ขาว
- - วานิลลิน 1 ช้อนชา
- - น้ำมะนาว ช้อนชา
- - ไวท์ช็อกโกแลต 150 g
- - ครีมหนักหนึ่งในสี่ถ้วย
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
เปิดเตาอบที่ 160 องศา เตรียมแม่พิมพ์ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 ซม. (ไม่จำเป็น)
ขั้นตอนที่ 2
ส่วนผสมสำหรับเปลือกถูกผสมและวางในแม่พิมพ์ สร้างกันชนใกล้เค้ก บีบก้นแก้ว.
ขั้นตอนที่ 3
ใช้กระทะขนาดเล็กผสมแป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ. ล. น้ำตาลและน้ำ ผสมทุกอย่างให้เข้ากันใส่ราสเบอร์รี่ วางบนเตาบนไฟร้อนปานกลาง
ขั้นตอนที่ 4
ปรุงอาหารประมาณ 5 นาทีจนราสเบอร์รี่เดือดและข้น หลังจากผ่านไป 5 นาที นำน้ำเชื่อมออกจากเตาแล้วกรองผ่านตะแกรงเพื่อแยกราสเบอรี่ออกจากหลุม
ขั้นตอนที่ 5
ตีครีมชีสและน้ำตาลในชามประมาณหนึ่งนาทีจนเป็นฟอง ผสมไข่ขาวกับไข่ เติมน้ำมะนาวและวานิลลิน ผสมกับมวลชีส
ขั้นตอนที่ 6
ละลายไวท์ช็อกโกแลตด้วยครีมในห้องอบไอน้ำ
ขั้นตอนที่ 7
เพิ่มช็อกโกแลตละลายลงในครีมชีส ผสมจนนุ่ม
ขั้นตอนที่ 8
เทสองในสามของแก้วที่เติมลงในแม่พิมพ์ที่มีเปลือกโลก ระดับเท่ากัน โรยน้ำเชื่อมราสเบอร์รี่ 2 ช้อนโต๊ะด้านบน ตามด้วยไส้ที่เหลือ ต้องทำอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้น้ำเชื่อมขึ้นสู่ผิวน้ำ
ขั้นตอนที่ 9
ปรับระดับพื้นผิวด้วยมีด เติมหลอดฉีดยาด้วยน้ำเชื่อมราสเบอร์รี่ บีบออกโดยเริ่มจากตรงกลางหรือวงกลมเล็ก ๆ แล้วค่อยๆเพิ่มขึ้น วาดกระแสน้ำวนเป็นวงกลม
ขั้นตอนที่ 10
หยิบไม้จิ้มฟันวิ่งตรงกลางวงกลมและโดยไม่ต้องถอดออกให้วงกลมเป็นรูปหัวใจ
ขั้นตอนที่ 11
ชีสเค้กอบเป็นเวลา 40 นาทีจากนั้นทิ้งไว้ 10 นาทีในเตาอบ จากนั้นปิดฝาขนมไว้ในตู้เย็นเป็นเวลา 6 ชั่วโมงหรือข้ามคืน เสิร์ฟพร้อมกับน้ำเชื่อมที่เหลือ