หอยนางรมในตอนต้นของศตวรรษที่ 19 ส่วนใหญ่ถูกใช้โดยตัวแทนของประชากรที่ยากจน เมื่อความต้องการเพิ่มขึ้น จำนวนตามธรรมชาติของพวกมันก็เริ่มลดลง และราคาสำหรับหอยสองฝาเหล่านี้ก็เริ่มสูงขึ้น วันนี้หอยนางรมถือเป็นอาหารอันโอชะ
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
หอยนางรมส่วนใหญ่กินได้และหลายชนิดสามารถรับประทานดิบได้ กฎทั่วไปคือต้องบริโภคหอยขนาดเล็กดิบ ในขณะที่พันธุ์ที่ใหญ่กว่าใช้เพื่อเตรียมอาหารต่างๆ หอยนางรมสามารถนึ่ง ผัด หรือย่างได้ตามใจชอบ
ขั้นตอนที่ 2
ในการนึ่งหอยนางรม คุณต้องล้างพวกมันด้วยน้ำเย็นไหลผ่านเพื่อขจัดสิ่งสกปรก มองหาเปลือกที่เปิดหรือแตก - นี่แสดงว่าหอยไม่มีชีวิตอีกต่อไปและไม่ควรบริโภค
ขั้นตอนที่ 3
เทน้ำประมาณ 5 ซม. ลงในกระทะ ตั้งไฟให้เดือด แล้วเติมเบียร์ครึ่งแก้วหรือไวน์หนึ่งแก้วเพื่อเพิ่มรสชาติ วางกระชอนหรือกระชอนโลหะวางบนหม้อ แล้วจัดเรียงหอยนางรมไว้แถวเดียว
ขั้นตอนที่ 4
นึ่งหอยนางรมประมาณ 5-10 นาทีบนไฟร้อนปานกลาง เมื่อหอยพร้อม หอยจะเปิดออกเอง
ขั้นตอนที่ 5
อีกวิธีที่นิยมในการปรุงหอยนางรมคือการย่าง คุณสามารถทอดมันในเปลือกครึ่งหนึ่งหรือปอกเปลือกให้หมดตามดุลยพินิจของคุณ
ขั้นตอนที่ 6
หากต้องการแกะเปลือกออกจากหอยนางรม คุณต้องใช้มีดเปิดออก จับไว้แน่นในถุงมือป้องกัน หรือเอาผ้าขนหนูพันมือไว้ เมื่อใบมีดเข้าไประหว่างสองส่วนของเปลือกแล้ว ให้หมุนแบบหมุนคล้ายกับหมุนกุญแจจุดระเบิดในรถยนต์ หลังจากนั้นเอาเปลือกออกครึ่งหนึ่งแล้วตัดขาหอยนางรมด้วยมีด
ขั้นตอนที่ 7
หากคุณเลือกที่จะย่างหอยนางรมครึ่งเปลือก คุณสามารถใช้ส่วนผสมที่แตกต่างกันเป็นเครื่องปรุงรสและซอสได้ ส่วนผสมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ เนยกับกระเทียม เนยและซีอิ๊ว ส่วนผสมของเนย หอมแดง ผักชีฝรั่งสด ชีสและพริกไทย เป็นต้น
ขั้นตอนที่ 8
กระจายหอยบนตะแกรงบนไฟร้อนปานกลาง ปิดฝาและปรุงอาหารประมาณ 5-10 นาที นำออกจากตะแกรงในลักษณะที่คุณจะไม่เทน้ำผลไม้ที่เกิดขึ้นระหว่างการปรุงอาหาร
ขั้นตอนที่ 9
วิธีที่สามที่ไม่ธรรมดาในการปรุงหอยนางรมคือการทอดในกระทะ สำหรับสิ่งนี้หอยจะต้องทำความสะอาดเปลือกหอยอย่างสมบูรณ์
ขั้นตอนที่ 10
รวมแป้งเกลือและพริกไทยดำ ตีไข่ 2 ฟองเบา ๆ ในชามแยก จุ่มหอยนางรมที่ปอกเปลือกแล้วลงในส่วนผสมของไข่ ตามด้วยแป้งเกลือและพริกไทย
ขั้นตอนที่ 11
ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชเยอะๆ ใส่หอยในน้ำมันเดือดในแถวเดียว ปรุงอาหารด้วยความร้อนสูงประมาณสองนาทีหรือจนเป็นสีเหลืองทอง