วิธีเพิ่มภูมิคุ้มกันด้วยอาหาร

วิธีเพิ่มภูมิคุ้มกันด้วยอาหาร
วิธีเพิ่มภูมิคุ้มกันด้วยอาหาร

วีดีโอ: วิธีเพิ่มภูมิคุ้มกันด้วยอาหาร

วีดีโอ: วิธีเพิ่มภูมิคุ้มกันด้วยอาหาร
วีดีโอ: วิธีการเสริมสร้าง ภูมิคุ้มกันในร่างกาย 2024, พฤศจิกายน
Anonim

ภูมิคุ้มกันปกป้องร่างกายจากการบุกรุกของแบคทีเรีย ไวรัส สารก่อภูมิแพ้ ช่วยต่อต้านอิทธิพลภายนอกที่เป็นอันตราย ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำมักจะป่วยและมีความอ่อนไหวต่อการเจ็บป่วยที่รุนแรงมากขึ้น ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงเพื่อปกป้องร่างกาย ด้านล่างนี้คืออาหาร 10 อย่างที่ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและปกป้องร่างกาย

วิธีเพิ่มภูมิคุ้มกันด้วยอาหาร
วิธีเพิ่มภูมิคุ้มกันด้วยอาหาร
  • ไวน์แดงที่บริโภคในปริมาณที่พอเหมาะมีผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน ไวน์ฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียอันตรายบางชนิด เช่น ซัลโมเนลลา ไวน์แดงยังช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจเมื่อบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ ขอแนะนำให้ดื่มไวน์แดงวันละหนึ่งแก้วเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันและปกป้องร่างกายจากโรคภัยไข้เจ็บทั่วไป เช่น หวัด ไข้ และโรคกระเพาะ แต่การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปสามารถทำลายตับและทำลายระบบภูมิคุ้มกันได้
  • กระเทียมเป็นหนึ่งในอาหารกระตุ้นภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุด กระเทียมเป็นยาปฏิชีวนะตามธรรมชาติ มีคุณสมบัติต้านไวรัส ต้านแบคทีเรีย และเชื้อรา ช่วยปกป้องร่างกายจากโรคต่างๆ กระเทียมรักษาอาการอักเสบ โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง และช่วยลดความดันโลหิตและระดับคอเลสเตอรอล และยังช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งอีกด้วย จากการวิจัยพบว่าผู้ที่กินกระเทียมจำนวนมากมีจำนวนเม็ดเลือดขาวสูง
  • น้ำผึ้งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติที่มีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและต้านจุลชีพ น้ำผึ้งช่วยปกป้องร่างกายจากไวรัส เชื้อรา และแบคทีเรีย รวมทั้งปรับปรุงระบบย่อยอาหาร บรรเทาอาการเจ็บคอ ควบคุมน้ำตาลในเลือด และรักษาอาการไอและหวัด กินน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะเป็นอาหารเช้าเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน
  • ขิงรักษาโรคได้มากมายและช่วยให้ร่างกายสามารถป้องกันได้ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่แข็งแกร่ง น้ำยาฆ่าเชื้อ ยาปฏิชีวนะที่มีคุณสมบัติต้านจุลชีพและต้านการอักเสบ ขิงยังช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ กำจัดไวรัสหวัด เพิ่มการเคลื่อนไหวของกระเพาะอาหาร ยับยั้งแผลในกระเพาะอาหาร และลดคอเลสเตอรอล ดื่มชาขิงทุกวันเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน
  • ชาเขียวช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันได้ดี ประกอบด้วย epigallocatechin gallate (EGCG) ซึ่งเป็นฟลาโวนอยด์ชนิดหนึ่งที่ต่อสู้กับแบคทีเรียและไวรัสและกระตุ้นการผลิตเซลล์ภูมิคุ้มกัน ชาเขียวยังเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ การบริโภคชาเขียวเป็นประจำช่วยป้องกันการพัฒนาของโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหลอดเลือดหัวใจ
  • โยเกิร์ตมีแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ เช่น Bifidobacterium Lactis ซึ่งช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน การกินโยเกิร์ตทุกวันช่วยป้องกันการติดเชื้อในลำไส้ รวมทั้งป้องกันโรคหวัด โรคบิด และโรคทั่วไปอื่นๆ โยเกิร์ตเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดขาวในเลือดและเพิ่มการผลิตแอนติบอดี
  • ส้มเป็นแหล่งวิตามินซีที่อุดมไปด้วย ผลไม้มีสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติที่ช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน ลดคอเลสเตอรอลและความดันโลหิต วิตามินซีส่งเสริมการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวซึ่งจะช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ส้มยังเป็นแหล่งของทองแดง วิตามิน A และ B9 ซึ่งจำเป็นสำหรับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
  • โกโก้ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและช่วยรักษาระดับคอเลสเตอรอลที่เหมาะสม ดื่มโกโก้ร้อนและเพิ่มภูมิคุ้มกัน การบริโภคช็อกโกแลตในปริมาณเล็กน้อยเป็นสิ่งสำคัญเพราะอาจทำให้อ้วนได้
  • ปลาเป็นแหล่งที่ดีของกรดไขมันโอเมก้า 3 และสังกะสี ซึ่งเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย สังกะสีสร้างและซ่อมแซมเซลล์ และกรดไขมันโอเมก้า 3 เป็นสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ
  • คะน้าหรือคะน้าเป็นแหล่งวิตามินเอที่อุดมไปด้วยซึ่งช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน เป็นสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติที่ต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง กระตุ้นการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาวและแอนติบอดีที่ปกป้องร่างกายจากการติดเชื้อแบคทีเรียและไวรัส นอกจากนี้ การบริโภคกะหล่ำปลีเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายมีรูปร่างที่ดี