ขนมปังอบที่บ้านสามารถทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ หนึ่งในส่วนผสมที่จะทำให้ขนมปังมีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้นคือรำข้าว ผลิตภัณฑ์นี้มีประโยชน์สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน มีวิตามินสำหรับการเจริญเติบโต และขจัดสารก่อภูมิแพ้ออกจากร่างกาย นอกจากนี้รำยังช่วยในการย่อยอาหารและการรักษาน้ำหนักให้คงที่
มันจำเป็น
-
- แป้งสาลี 1 วิ 630 กรัม
- ยีสต์ฟองน้ำ 20 กรัม
- รำข้าวสาลี 25 กรัม
- เมล็ดทานตะวัน 5 กรัมต่อท็อปปิ้ง
- น้ำตาล 5 กรัม
- เกลือ 12 กรัม
- น้ำผึ้ง 5 กรัม
- นม 190 กรัม
- เนย 50 กรัม
- น้ำ - ประมาณ 200-250 มล.
คำแนะนำ
ขั้นตอนที่ 1
ผสมยีสต์ 20 กรัมกับน้ำอุ่น 70 มล. ใส่น้ำตาล 5 กรัม คนให้เข้ากัน แล้วนำไปตั้งในที่อบอุ่นเป็นเวลา 20 นาที
ขั้นตอนที่ 2
เพื่อให้มีความพรุนมากขึ้น ให้ร่อนแป้งให้ละเอียด แล้วผสมกับรำข้าว อุ่นนมที่อุณหภูมิ 35-40 องศาเมื่ออุ่นพอให้ละลายเกลือและน้ำผึ้งลงไป อุ่นเนยที่อุณหภูมิห้อง เพิ่มนมและยีสต์ลงในชามที่มีแป้งและรำ นวดแป้งเป็นเวลาอย่างน้อย 20 นาที เมื่อนวดแป้งพอแล้วให้ใส่เนยลงไป ถ้าแป้งติดมือ ให้เติมแป้งเล็กน้อย
ขั้นตอนที่ 3
ปิดฝาภาชนะด้วยแป้งทิ้งไว้ให้หมักที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลา 3.5 ชั่วโมง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีฉบับร่าง หลังจากหนึ่งชั่วโมงหลังจากการเริ่มหมัก นวดแป้งเบา ๆ หลังจากนั้นอีกหนึ่งชั่วโมง ทำซ้ำขั้นตอนนี้
ขั้นตอนที่ 4
ปั้นแป้งเสร็จแล้วปั้นเป็นก้อน ใส่ในจานอบ อัดจารบี และทาเนยก่อน ปล่อยให้ขนมปังนั่งในแม่พิมพ์เป็นเวลา 50 นาทีที่อุณหภูมิ 30 องศาอันเป็นผลมาจากการที่แป้งควรเพิ่มปริมาตรเป็นสองเท่า จากนั้นโรยเปลือกขนมปังในอนาคตด้วยน้ำแล้วโรยด้วยเมล็ดพืช
ขั้นตอนที่ 5
อุ่นเตาอบไว้ที่ 200 องศา วางขนมปังในเตาอบและอบที่อุณหภูมินี้เป็นเวลา 40 นาที
ขั้นตอนที่ 6
เมื่อขนมปังพร้อมแล้ว ให้แช่ในน้ำร้อนสักสองสามนาที แล้วนำกลับไปอบในเตาอบให้แห้งทันที ซึ่งจะทำให้ได้รับสารอาหารและสารที่เป็นน้ำตาลจากรำในปริมาณสูงสุด เก็บขนมปังของคุณในที่เย็น