เนื้อกบเป็นอาหารอันโอชะที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศทั่วโลก ตั้งแต่ฝรั่งเศสไปจนถึงแคริบเบียน ส่วนใหญ่มักใช้ขากบหรือขาขาวอมชมพูเป็นอาหาร ผู้คนต่างสนใจว่าเนื้อกบมีรสชาติอย่างไร เนื่องจากสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำนี้แทบจะเรียกได้ว่าอร่อยเลยแม้แต่น้อย
รสชาติและประโยชน์
เนื้อกบมีรสชาติเหมือนไก่ต้มหรือลิ้นจี่ นอกจากนั้น เนื้อกบค่อนข้างนุ่ม ชุ่มฉ่ำ และที่สำคัญมากคือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เนื่องจากแหล่งอาศัยของกบเป็นน้ำบริสุทธิ์เป็นพิเศษ สำหรับองค์ประกอบของมันประกอบด้วยวิตามินของกลุ่ม C, D และ E, ฟอสฟอรัส, แมกนีเซียม, เหล็กและแคลเซียมตลอดจนสารที่ป้องกันการพัฒนาของมะเร็งชนิดต่าง ๆ รวมถึงมะเร็งสมอง หนังกบมีสารยาที่ชาวเอเชียและอินเดียใช้กันอย่างแพร่หลายในการรักษาโรคท้องมาน การไหลเวียนไม่ดี และโรคของระบบหัวใจและหลอดเลือด
รัสเซียโบราณใส่กบในภาชนะที่มีนมหรือ kvass - พวกเขาเก็บเครื่องดื่มให้สดเป็นเวลานาน
นอกจากนี้ในการปรุงอาหารยังใช้ขากบต้นไม้ซึ่งมีสารต้านการอักเสบและยาแก้ปวดที่รุนแรงซึ่งมีผลมากกว่าผลของมอร์ฟีน ผู้ที่รับประทานอาหารอันโอชะนี้มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ ป้องกันอาการบวมน้ำ และฆ่าเชื้อแบคทีเรียในร่างกาย นอกจากนี้ เนื้อกบยังมีแคลอรีค่อนข้างต่ำ จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือหลีกเลี่ยงไม่ให้ระบบย่อยอาหารทำงานมากเกินไป
คุณสมบัติการทำอาหาร
ตามเนื้อผ้า ในการเตรียมอาหารรสเลิศ เชฟจะใช้ส่วนบนของขากบซึ่งมีกระดูกเพียงชิ้นเดียว ในเวลาเดียวกัน ร้านอาหารให้บริการเฉพาะกบสายพันธุ์ที่กินได้เท่านั้น ซึ่งได้รับการเลี้ยงดูในเรือนเพาะชำฟาร์มพิเศษที่มีสภาพที่อยู่อาศัยทางนิเวศวิทยา เนื้อกบทำให้เป็นอาหารจานเด็ดที่เข้ากันได้ดีกับผักที่ปรุงในแป้งหรือทอด นอกจากนี้ ขากบมักจะอบในแป้งสาลีหรือชุบเกล็ดขนมปังด้วยสมุนไพรและเครื่องเทศที่มีกลิ่นหอม
สูตรเนื้อกบคล้ายกับขาไก่หรือปีกมาก
ขากบมักจะเสิร์ฟพร้อมกับซอสร้อนที่มีสมุนไพร เครื่องเทศ และกระเทียม และหมักในส่วนผสมของน้ำมะนาว น้ำส้มสายชูแอปเปิ้ลไซเดอร์ หรือไวน์ก่อนปรุงอาหาร คนจีนกินพวกเขาตุ๋นและผัดกับเครื่องเทศ เอากระดูกออกจากขา และเพิ่มเนื้อกบในโจ๊ก ชาวยุโรป (โดยเฉพาะชาวฝรั่งเศสและอิตาลี) อบขากบกับผักในปลอกแขนสำหรับทำอาหารหรือสตูว์กับเครื่องเทศในกระทะ ชาวญี่ปุ่นและชาวไทยใส่เนื้องู เกรวี่เข้มข้น และซอสปรุงรสด้วยเครื่องเทศและเครื่องปรุงรสร้อน ๆ ลงในเนื้อกบ ทำให้ได้จานที่อร่อยและแปลกใหม่