ผักกาดหอมเป็นน้ำ 95% แต่ส่วนที่เหลืออีก 5% เป็นวิตามิน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ใยอาหาร และสารอาหารอื่นๆ ปริมาณแคลอรี่ของพื้นที่สีเขียวนี้ต่ำมาก - ประมาณ 15 Kcal ต่อร้อยกรัมของผลิตภัณฑ์
เนื้อหาของสารอาหารในสลัด
ผักกาดหอมประกอบด้วยวิตามิน B, E, K และ PP จำนวนมาก ธาตุเหล็ก โพแทสเซียม แคลเซียม แคโรทีน เกลือของฟอสฟอรัส กรดโฟลิก และธาตุอื่นๆ วิตามินซีส่วนใหญ่พบได้ในใบแสงชั้นใน และวิตามินบี - ในสีเขียวส่วนนอก เนื่องจากการกระจายสารอาหารที่ไม่สม่ำเสมอ จึงเป็นการดีกว่าที่จะบริโภคผักกาดหอมทั้งหัว แทนที่จะกินแค่ใบชั้นใน
คุณสมบัติการรักษาของผักกาดหอมและสูตรอาหารเพื่อสุขภาพ
ผักนี้ช่วยให้มีอาการเหนื่อยล้าเรื้อรัง ความผิดปกติของการเผาผลาญ นอนไม่หลับ และความเครียด ด้วยองค์ประกอบที่เข้มข้น ผักกาดหอมจึงให้โทนสีที่ลงตัว สงบประสาท ช่วยรับมือกับความเครียดและการนอนไม่หลับ สลัดประกอบด้วยน้ำบริสุทธิ์เป็นหลักจึงปรับสมดุลให้เป็นปกติและช่วยให้มีอาการบวมน้ำ ผักกาดหอมมีวิตามินซีจำนวนมาก ดังนั้นจึงใช้ป้องกันโรคหวัดได้
ผักใช้ทำความสะอาดร่างกาย ขจัดคอเลสเตอรอล เกลือ และสารอันตรายอื่นๆ ส่วนเกิน ผักกาดหอมช่วยฟื้นฟูการเคลื่อนไหวของลำไส้ที่เฉื่อย ดังนั้นจึงแนะนำสำหรับอาการท้องผูก นอกจากนี้ผักกาดหอมยังช่วยเสริมสร้างหลอดเลือดและปรับปรุงการสร้างเลือด
น้ำผลไม้สดของผักชนิดนี้ช่วยรักษาโรคกระเพาะและแผลในกระเพาะ และหากคุณผสมกับน้ำแครอทและหัวผักกาด คุณก็จะสามารถรักษาโรคหลอดเลือดแข็งและโปลิโอได้ น้ำผักกาดหอมสดยังมีประโยชน์ต่อตับ ตับอ่อน และไตอีกด้วย
ผักกาดหอมใช้ในสูตรยาและป้องกันโรคหลายชนิด ผักชนิดนี้มีคุณสมบัติขับเสมหะ เพื่อกำจัดอาการไอคุณต้องเทใบบด 20 กรัมกับน้ำเดือด 200 มิลลิลิตรทิ้งไว้ 2 ชั่วโมงแล้วกรอง ดื่มน้ำวันละ 3-4 ครั้ง 50 มิลลิลิตร
เพื่อกำจัดอาการนอนไม่หลับให้ต้มน้ำเดือด 250 มล. ด้วยใบผักกาดหอมบด 20 กรัมทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมงและถ่าย 100 มล. ก่อนนอน และเพื่อรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบใบผักกาดหอมบดในปริมาณเท่ากันจะถูกเทลงในน้ำเดือด 250 มล. และต้มเป็นเวลา 2 ชั่วโมง จากนั้นกรองผ่านตัวกรองหรือผ้าก๊อซแล้วดื่ม 100 มิลลิลิตร 2-3 ครั้งต่อวัน
เพื่อบรรเทาอาการของโรคไขข้อคุณต้องเทใบบด 30 กรัมกับน้ำเดือด 600 มล. ทิ้งไว้ 4 ชั่วโมงแล้วคลายเครียด รับประทานวันละ 3 ครั้ง 50 มล.
การบริโภคผักกาดหอมในเลือดเป็นประจำจะเพิ่มระดับเบต้าแคโรทีนและลูทีนซึ่งทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ เอ็นไซม์เหล่านี้ยังช่วยปกป้องดวงตาจากโรคต่างๆ เช่น ต้อกระจก และการเสื่อมสภาพตามวัย